เราสามารถแบ่งประเภทของพู่กันได้กว้างๆ เป็น 2 ประเภทตามการใช้งาน คือพู่กันขนนิ่ม กับพู่กันขนแข็ง โดยพู่กันขนนิ่มจะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มาก และไม่ข่วนผิวกระดาษตอนระบาย จึงเหมาะกับงานสีน้ำ ส่วนพู่กันขนแข็ง เราจะเอาไว้ใช้กับสีน้ำมัน เพราะการวาดบนผืนผ้าใบจะทนทานกว่าผิวกระดาษมาก

จากนั้นเราจะมาดูลักษณะหัวพู่กัน ซึ่งแบบที่เป็นที่นิยมและหาได้ง่าย ก็จะเป็นแบบหัวกลม กับหัวแบน

พู่กันหัวกลม

หาง่าย, ราคาไม่แพง (ที่แพงก็มี) พลิกแพลงการใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะปลายที่แหลม สามารถใช้เขียนรายละเอียดได้ดี

พู่กันหัวแบน

เหมาะกับการใช้ในการระบายพื้นที่ใหญ่ๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องการความรวดเร็ว เช่นการระบายท้องฟ้า หรือแม่น้ำ ทะเลฯลฯ แต่มีการใช้งานที่จำกัดกว่าหัวกลม เช่น ไม่สามารถระบายในรายละเอียดได้ดีเท่าหัวกลม

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า พู่กันมีลักษณะการใช้งานตามความเหมาะสมที่ไม่เหมือนกัน เบื้องต้นหากยังไม่แน่ใจแนะนำมือใหม่ให้เลือกแต่พู่กันหัวกลมก่อนเพราะสามารถใช้ได้หลากหลาย แล้วค่อยเพิ่มหัวชนิดอื่นภายหลัง ตามลักษณะการวาดที่ชอบ

ขนพู่กัน

พู่กันมีขนทั้งแบบสังเคราะห์ และแบบขนสัตว์ แตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ ส่วนใหญ่ขนสัตว์จะนิ่ม และอุ้มน้ำกว่ารวมทั้งมีราคาสูง สำหรับผู้เริ่มต้นพู่กันขนสังเคราะห์ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

ขนาดพู่กัน

สำหรับมือใหม่ แนะนำให้หาพู่กันเบอร์ 12, 6 เพียง 2 ด้ามก็พอวาดได้แทบทุกอย่างแล้ว หลังจากนั้นถ้ารู้สึกขาดอะไรค่อยหาซื้อเพิ่ม เช่น หากเราพบว่าชอบเขียนรายละเอียด ก็อาจซื้อหัวเล็กๆ เพิ่ม เป็นต้น

การทำความสะอาด

เมื่อใช้เสร็จแล้ว ควรล้างด้วยน้ำสบู่ (เอาสบู่มาละลายน้ำ) อีกครั้ง จากนั้นค่อยล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง ก็จะช่วยถนอมพู่กันให้อยู่ได้นานขึ้น